โกโก้บราวนี่ อร่อยหนึบหนับ + เทคนิคหน้าสวย ทำขายกำไรงาม!! - [ทำอะไรกินดี] EP. 27 บราวนี่โกโก้จ้า สูตรนี้เราใช้เวลาในการทดลองทำอยู่หลายครั้งมากๆเลย เคยขายมาก่อน เข้าใจหัวออกคนเริ่มทำ เลยอยากเอามาแชร์เผื่อเป็นความรู้ให้ค่าา ใครอยากเอาไปทำขา... ✿ Classic Coffee Brownies.. อีกสูตร IV ✿ ✿ Classic Coffee Brownies.. อีกสูตร IV ✿ Walnut Brownies with Cocoa Nibs and Dry Cherries Walnut Brownies with Cocoa Nibs and Dry Cherries เมนู "บราวนี่" ดับเบิ้ลช็อกฯ เอาใจคนรักช็อกโกแลตเต็มที่ กับบราวนี่เนื้อเข้มข้น รสหวานกำลังดี สาดช็อกโกแลตชิพเพิ่มความฟิน ดีต่อใจกันแบบไม่แคร์แคลอรี! - Wongnai
นอกจากเรื่องของ "บราวนี" แล้ว ยังมีเรื่องของ ขนมปัง ซึ่งเป็นขนมที่มีมาตั้งแต่โบราณมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ถ้าหากเพื่อน ๆ สนใจ สามารถเข้าไปอ่านบทความ โลกขนมปัง ได้เลยค่ะ วาวาหวังว่าบทความเรื่องนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ อ่านบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่เลย! วิธีทำ "บราวนี" ดับเบิลช็อก เข้มข้นถึงใจ ความลับของช็อกโกแลตที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้! เปิดตำรา "อุปกรณ์เบเกอรี" ฉบับเบื้องต้น 10 สูตร "เมนูบราวนี" ทำเองได้ง่าย ๆ ทำขายก็เยี่ยม!
" บราวนี่ " เป็นขนมแรกๆ ที่คนเริ่มทำขนม ชอบทำกัน เพราะใช้ส่วนผสมพื้นฐานแค่ไม่กี่อย่าง และมีวิธีการทำงานที่ไม่ยุ่งยากเหมาะกับมือใหม่หัดทำมากๆ วัตถุดิบเบเกอรี่ ที่ใช้ก็มีแค่ เนย น้ำตาล ช็อกโกแลต หรือผงโกโก้ ไข่ และแป้ง ส่วนอุปกรณ์ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องตี ไฟฟ้าให้ยุ่งยาก ----------------------------------------------- วันนี้ จะมาแนะนำว่า บราวนี่ที่นิยมทำกัน นั้นมีกี่แบบ? พร้อม แนะนำสูตรบราวนี่ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำบราวนี่ สำหรับมือใหม่หัดอบ รับรอง อร่อยๆ ฟินเว่อร์ ประเภทของบราวนี่ ถ้าหากแบ่งตามเนื้อสัมผัส จะแบ่งได้ 4 ประเภท 1. Fudgy Brownie (ฟัดจ์บราวนี่) บราวนี่เนื้อฉ่ำ หนึบหนับ หน้าฟิล์มสุดอร่อย ฟัดจ์บราวนี่ จะใช้ปริมาณแป้งไม่มาก ส่วนใหญ่ประมาณครึ่งถ้วย และไม่ใส่ผงฟู โดยที่จะใช้วิธีการละลายเนยแทนการตีเนยกับน้ำตาล ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เนื้อของบราวนี่ฉ่ำ โดยตัวชูโรงคือช็อกโกแลต ซึ่งแนะนำเป็นช็อกโกแลตแท้ (Couverture Chocolate) แบบ unsweetened และเติมน้ำตาลเพื่อเพิ่มความหวานตามใจชอบ ซึ่งจะใช้น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลทรายแดงก็ได้และแต่ความชอบ เคล็ดไม่ลับ ยิ่งใช้น้ำตาลที่สีเข้มมากเท่าไร บราวนี่ที่ได้ก็จะมีกลิ่นหอมของน้ำตาลที่มากขึ้น 2.
ประเภทของ "บราวนี" มีอะไรบ้าง? ประเภทของบราวนีต่าง ๆ เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของนักอบที่อยากให้มีลักษณะเนื้อที่แตกต่างกันไป จึงทำให้เกิดวิธีทำบราวนีที่แตกต่างกัน ถ้าหากแบ่งเป็นลักษณะเนื้อสัมผัส จะแบ่งได้เป็น วัตถุดิบบราวนีเค้ก 2. 1 Brownie cake (บราวนีเค้ก) ส่วนผสมบราวนีเค้ก คือ แป้งเค้ก เนย ผงโกโก้ ไข่ น้ำตาล ผงฟูและกลิ่นวานิลลา วิธีทำบราวนีเค้ก วิธีทำบราวนีเค้ก ละลายเนยและผงโกโก้ให้เข้ากัน เทน้ำตาลทรายใช้ตระก้อมือตีให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่ไข่ทีละฟอง ตามด้วยกลิ่นวนิลา จากนั้นเทส่วนผสมของแห้ง ได้แก่ แป้งเค้กและผงฟู คนให้เข้ากันเทใส่ถาด หลังจากนั้นนำไปเข้าเตาอบ อบจนบราวนีสุก วัตถุดิบบราวนีฟัดจ์ 2. 2 Fudge brownie (บราวนีฟัดจ์) ส่วนผสมบราวนีฟัดจ์ คือ แป้งเค้ก เนย ดาร์กช็อกโกแลต ไข่ น้ำตาล ผงฟูและกลิ่นวานิลลา วิธีทำบราวนีฟัดจ์ วิธีทำบราวนีฟัดจ์ ละลายเนยและช็อกโกแลตเข้าด้วยกัน พักไว้ ตีไข่กลิ่นวานิลลาและน้ำตาลให้เข้ากัน เทส่วนผสมของเนยละลายกับช็อกโกแลตในอ่างผสมน้ำตาล ใช้ตะกร้อมือตีให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่ส่วนผสมของแห้ง ได้แก่ แป้งเค้กและผงฟู เทใส่ถาดแล้วนำเข้าเตาอบ อบให้สุก วัตถุดิบบราวนีชิววี 2.
แล้วมัน "แตกต่าง" กัน อย่างไรนะ? เมื่อวิธีทำ และวัตถุดิบที่แตกต่างกัน จึงทำให้เกิดลักษณะเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันดังนี้ 3. 1 Brownie cake (บราวนีเค้ก) "Brownie cake" จะมีปริมาณ แป้ งและไข่ มากกว่าชนิดของบราวนีอื่น ๆ จึงทำให้ ลักษณะเนื้อส้มผัสเป็นเนื้อเค้ก เบา มีความฟู และความนุ่ม ดังนั้น "บราวนี" ประเภทนี้ จะอยู่ในหมวดหมู่ เค้ก เพราะไม่สามารถอยุ่รวมตัวเป็นชิ้น ๆ เหมือนคุกกี้ได้ เเละมีวิธีการรับประทานโดยใช้ช้อนหรือส้อมตักกิน 3. 2 Fudge brownie (บราวนีฟัดจ์) "Fudge brownie" จะมีปริมาณแป้งน้อยที่สุด และมีส่วนผสม ดาร์กช็อกโกแลต มากกว่า "บราวนี" ชนิดอื่น ๆ ทำให้เหนียวหนึบ จับตัวเป็นชิ้นได้ดี และด้วยวิธีการทำที่ไม่มีการตีให้ขึ้นฟู จึงทำให้เนื้อสัมผัสแน่น ด้านบนของ "บราวนี" มีการขึ้นฟิล์มจากดาร์กช็อกโกแลต เมื่อนำเข้าอบจะทำให้มีความเงา และกรอบ 3. 3 Chewy brownie (บราวนีชิววี) "Chewy brownie" เป็นการผสมผสานระหว่าง "Brownie cake" และ "Fudge brownie" ดังนั้นเนื้อเค้กที่ได้จะมีความเบา แต่ไม่เท่าเค้ก เพราะมีปริมาณไข่ และแป้งน้อยกว่า เนื้อ "Brownie cake" แต่ก็มีความแน่นของดาร์กช็อกโกแลต เพราะมีปริมาณ ดาร์กช็อกโกแลตมากกว่า และจากการใช้ช็อกโกแลต หั่นเป็นชิ้นผสมกับเนื้อแบทเทอร์ (Batter) ก่อนนำไปเข้าอบ จึงทำให้มีความชุ่มฉ่ำของช็อกโกแลตละลาย ที่แทรกตามเนื้อ แต่ก็จะไม่หนึบเท่า "Fudge brownie" ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ?